วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

Nikon 1 AW1 กล้อง mirrorless กันน้ำได้รุ่นแรกของโลก

วงการกล้อง mirrorless ยังมีของใหม่ออกมาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุด Nikon เปิดตัวกล้องซีรีส์ Nikon 1 ตัวใหม่ AW1 พร้อมเคลมว่าเป็น mirrorless ตัวแรกที่มาพร้อมกับความสามารถในการกันน้ำได้ทางด้านสเปค AW1 จะใกล้เคียงกับ J3 ใช้เซนเซอร์ขนาด CX format (1″) ความละเอียด 14 เมกะพิกเซล ถ่ายรัวได้สูงสุด 15 ภาพต่อวินาที (ถ้าโหมดล็อกโฟกัสจะได้ 60 ภาพ) เร่ง ISO ได้ตั้งแต่ 160-6400 หน้าจอด้านหลัง 3″ สัมผัสไม่ได้ พลิกเอนไม่ได้
ส่วนความทนถึก AW1 กันน้ำได้ลึกสุด 15 เมตร และกันกระแทกได้ที่ความสูงระดับ 2 เมตร และจะเริ่มขายวันที่ 10 ตุลาคมนี้ด้วยราคาเปิดที่ 799 เหรียญ (ประมาณ 25,000 บาท) มาพร้อมกับเลนส์ AW 11-27.5mm และราคา 999 เหรียญ (ประมาณ 31,000 บาท) สำหรับชุดเลนส์คู่ AW 11-27.5mm และ AW 10mm ครับ
Nikon AW1
พร้อมกับการเปิดตัวกล้องกันน้ำ Nikon ก็ปล่อยเลนส์ซีรีส์ AW ที่กันน้ำเช่นกันมาสองตัวรวด แต่จะไม่มีระบบกันสั่นในตัวมาให้ ตัวแรกเลนส์นอร์มอลซูม Nikon 1 Nikkor AW 11-27.5mm f/3.5-5.6 ซึ่งจะติดมากับกล้อง AW1 กันน้ำได้ลึกเท่ากับกล้องที่ 15 เมตร ส่วนอีกตัวเป็นเลนส์วายด์ Nikon 1 Nikkor AW 10mm f/2.8 กันน้ำได้ลึกกว่ากล้องเสียอีกที่ 20 เมตร เปิดราคามาที่ 299 ปอนด์ (ประมาณ 15,000 บาท) เริ่มขายพร้อมกล้องครับ
Nikon 1 Nikkor AW 11-27.5mm f/3.5-5.6
Nikon 1 Nikkor AW 10mm f/2.8
ที่มา – Blognone dpreview

โนเกียไทยเคาะราคา Nokia 515 ฟีเจอร์โฟนตัวหรู 4,790 บาท

Nokiaถึงแม้โลกจะหมุนไปทางสมาร์ทโฟน แต่ตลาดฟีเจอร์โฟนก็ยังอยู่และขายได้ ถ้ายังจำกันได้ โนเกียเพิ่งเปิดตัว Nokia 515 ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์โฟนตัวท็อปสุดของบริษัทในปัจจุบัน มาพร้อมกับ Gorilla Glass 2, กล้อง 5MP, แฟลช LED, เสียงสนทนา HD, รองรับ HSDPA แถมมีฟีเจอร์ที่สมาร์ทโฟนไม่มีอย่างการสแตนด์บาย 38 วัน, สามารถดึง contact จาก WP/Android มาใช้เป็นมือถือเครื่องสำรองได้ง่าย, ใช้ไมโครซิมทำให้สลับซิมกับสมาร์ทโฟนได้ง่าย (ขาดไปอย่างเดียวคือจอไม่สัมผัส)
โนเกียประเทศไทยนำ Nokia 515 มาขายแล้ว ตั้งราคาไว้ที่ 4,790 บาท มีสีดำและขาวให้เลือก


ที่มา – Blognone อีเมลประชาสัมพันธ์โนเกียประเทศไท

HP เปิดตัว ENVY 17 โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม Leap Motion ในตัว

HPHP มาเหนือเมฆ เปิดตัว ENVY 17 Leap Motion Special Edition โน้ตบุ๊กที่ฝังเซ็นเซอร์ Leap Motion มาให้ในตัว สามารถสั่งการได้โดยไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่องแม้แต่น้อย สเปกอย่างอื่นๆ ก็มาตรฐานตัวแรง หน้าจอ 17.3″ 1920×1080, ซีพียู Core i7 Haswell, แรม 8GB, ฮาร์ดดิสก์ 1TB 5400 rpm (อัพเป็น 7200 rpm ได้), การ์ดจอ NVIDIA GeForce ไม่ระบุรุ่น ส่วนของเด็ดอย่าง Leap Motion ดูกันเองในวิดีโอท้ายข่าว
ราคาเริ่มต้นที่ 1,049 ดอลลาร์ เริ่มวางขาย 16 ตุลาคมนี้

HP Envy 17 Leap

ที่มา – Blognone HP

My Yahoo! ปรัปรูปโฉมใหม่ทั้งบนมือถือ, แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป

Yahoo!Yahoo! ปรับปรุงบริการ My Yahoo! ทั้งบนมือถือ, แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป ด้วยการออกแบบ My Yahoo! ให้ดูสดใสยิ่งขึ้น พร้อมกับสามารถจัดระเบียบ และการค้นหาในส่วนที่คุณชื่นชอบได้ โดยมีการปรับปรุง My Yahoo! ให้สามารถเข้าถึงอีเมล, ปฏิทิน, บอร์ดคะแนนการแข่งกีฬา, การลงทุนหุ้น, อากาศ, ภาพจาก Flickr และเนื้อหาอื่นๆ ที่คุณต้องการที่จะแสดงได้มากยิ่งขึ้น



ที่มา – Blognone Yahoo! via The Next Web

HP เปิดตัวแท็บเล็ต Omni 10, โน้ตบุ๊กแยกจอได้ Spectre x2, Pavilion x2

HPข่าว HP ระลอกสุดท้ายประจำวันครับ นอกจาก HP Envy พร้อม Leap Motion และ แท็บเล็ต Slate สายแอนดรอยด์ ก็มาดูฝั่งผลิตภัณฑ์สายวินโดวส์กันบ้างเริ่มจากแท็บเล็ตวินโดวส์เพียงหนึ่งเดียวกันก่อน HP Omni 10 เป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 ที่ใช้ซีพียู Atom Z3000 (Bay Trail), หน้าจอ 10″ 1920×1200, แรม 2GB, ใช้งานได้นาน 9 ชั่วโมง, พรีโหลด Office 2013 ตัวเต็มมาให้พร้อมสรรพ
ราคายังไม่เปิดเผย เริ่มวางขายเดือนพฤศจิกายนนี้

Omni 10
ที่เหลือเป็นโน้ตบุ๊ก 4 ตัวรวดครับ เอาตระกูล Pavilion ก่อน
  • HP Pavilion 11 x2 โน้ตบุ๊กถอดจอเป็นแท็บเล็ตได้ (2-in-1) หน้าจอขนาด 11.6″, Atom Bay Trail, แรม 4GB, SSD 64GB, ราคา 599 ดอลลาร์ เริ่มขาย 17 พฤศจิกายนนี้
  • HP Pavilion 13 x2 โน้ตบุ๊กถอดจอเป็นแท็บเล็ตได้แบบเดียวกัน หน้าจอ 13″ Full HD, มีให้เลือกทั้งรุ่น Intel Core และ AMD A6, รองรับ WiDi ในตัว, ราคาเริ่มต้น 599 ดอลลาร์เท่ากับตัว 11 นิ้ว วางขายก็พร้อมกัน
Pavilion 13
ที่มา – Blognone HP PressHP Blog (Omni/Pavilion)
ปิดท้ายด้วยโน้ตบุ๊กรุ่นแพง Spectre แบ่งเป็นสองรุ่นย่อย
  • HP Spectre 13 x2 ตัวนี้เป็นอัลตร้าบุ๊กถอดจอได้ หน้าจอ 13.3″ 1920×1080, Beats Audio, ซีพียู Intel Core Haswell, ความจุ SSD 128GB, ออกแบบให้ระบายความร้อนโดยไม่ต้องมีพัดลม, ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ เริ่มขาย 16 ตุลาคมนี้
  • HP Spectre 13 Ultrabook อัลตร้าบุ๊กจอสัมผัสที่ถอดจอไม่ได้ จอ 13.3″ แต่ละเอียดถึง 2560×1440 (221 ppi), ซีพียู Core i7 Haswell, ใส่แรมได้สูงสุด 8GB, SSD 128GB, ทัชแพดแบบใหม่เรียก HP Control Zone ที่ออกแบบมาสำหรับ gesture ของ Windows 8.1, แบตเตอรี่ 9 ชั่วโมง, หนาเพียง 15 มิลลิเมตร, ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ เริ่มขาย 16 ตุลาคมนี้

กูเกิลประกาศแจก Quickoffice ฟรี ทั้งบน Android/iOS เป็นการถาวร

Googleหลังจากที่กูเกิลเข้าซื้อ Quickoffice ไปเมื่อปีที่แล้ว และประกาศแจกฟรีเฉพาะลูกค้า Google Apps ภาคธุรกิจ ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ยังคงขายอยู่สำหรับลูกค้าทั่วไปวันนี้กูเกิลประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะเปิดให้ใช้ Quickoffice ฟรีเป็นการถาวร ทั้งบน Android และ iOS โดยนอกจากจะเพิ่มคุณสมบัติทำงานร่วมกับ Google Drive ให้ดีขึ้นแล้ว ยังปรับปรุงคุณสมบัติอื่นๆ เช่น การสร้างไฟล์ .zip ได้ในตัว ตลอดจนถึงหน้าตาและไอคอนภายในด้วย และกูเกิลยังได้เปลี่ยนโลโก้ของ Quickoffice ไปในคราวเดียวกัน (ภาพดูได้จากที่มา)
โอกาสเดียวกันนี้ กูเกิลประกาศว่า ผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ Google Account ผ่านตัวแอพ Quickoffice ใหม่ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 26 กันยายน กูเกิลจะแจกพื้นที่ให้เพิ่มสำหรับ Google Drive จำนวน 10 GB เป็นระยะเวลาสองปีครับ

ที่มา – Blognone Google Drive Blog

พบช่องโหว่ iOS 7 เข้าถึงภาพถ่ายในเครื่องได้จาก Lockscreen

iOS 7มีรายงานช่องโหว่ใหม่ของ iOS 7 ที่สามารถเข้าถึงภาพถ่ายภาพในเครื่องได้แม้ตั้ง lockscreen ไว้ วิธีการคือให้เข้าหน้า control center จาก lockscreen, เลือกนาฬิกาปลุก, กดปุ่ม power ค้างไว้เพื่อให้ขึ้นหน้าจอถามการปิดเครื่อง, กด cancel, กด home สองทีเพื่อเข้าหน้ารายการแอพ ก็จะสามารถเข้าถึงภาพถ่ายและกล้องถ่ายรูปได้
โฆษกของแอปเปิลระบุว่าทราบปัญหานี้แล้ว และจะรีบแก้ไขต่อไป ระหว่างนี้สามารถปิดการเข้าถึง control center จากหน้า lockscreen ไปพลางๆ ได้ก่อน
ที่น่าสนใจคือคนที่ค้นพบช่องโหว่นี้เป็นทหารชื่อ Jose Rodriguez จากหมู่เกาะคานารีของสเปน เขามีประวัติค้นพบช่องโหว่ของหน้า lockscreen มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่าในอดีตเขาเป็นพนักงานขับรถให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล มีเวลาว่างเหลือเฟือเวลารอเจ้านาย เขาจึงทดสอบการกดปุ่มทุกแบบกับหน้า lockscreen เท่าที่นึกออก และก็ค้นเจอช่องโหว่อยู่บ้าง (เขาใช้คำว่า “ทรมาน iPhone อย่างโหดร้าย”)



ที่มา – Blognone Forbes

กูเกิลปรับหน้าเว็บใหม่ ลาก่อนแถบสีดำ

Googleหลังจากทดสอบมา สักพัก วันนี้กูเกิลก็ได้ฤกษ์ปรับหน้าตาเว็บไซต์ใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยนำแถบสีดำด้านบนที่รวมรายชื่อบริการต่างๆ ออก แล้วเปลี่ยนมาใช้ไอคอนแบบกริดบนมุมขวาแทน (กูเกิลเรียกว่า App Launcher)นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนมาใช้โลโก้ใหม่ที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้อีกด้วยกูเกิลจะทยอยปรับให้ผู้ใช้ทุกคนภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ครับ








ที่มา – Blognone Inside Search

MinnowBoard พีซีจิ๋วใช้ชิปอินเทล

Intelพีซีจิ๋วที่เริ่มขาก BeagleBoard มาจนถึง Raspberry Pi ทุกวันนี้ทำให้การพัฒนาคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานเฉพาะทางทำได้ง่ายขึ้นและราคา ถูก แต่เครื่องเกือบทั้งหมดมาจากฝั่ง ARM ทั้งสิ้น แม้จะมีผู้ผลิตใช้ชิปอินเทลบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นฮาร์ดแวร์โอเพนซอร์สจน กระทั่งเร็วๆ นี้ อินเทลได้ติดต่อ CircuitCo ผู้ผลิต BeagleBoard เพื่อให้ผลิตพีซีจิ๋วโดยใช้ชิปอินเทลในชื่อ MinnowBoard MinnowBoard เป็นฮาร์ดแวร์โอเพนซอร์สเกือบ ทั้งหมด จากปกติผู้ผลิตที่ต้องการเข้าถึงสเปคบางอย่างจะต้องลงชื่อในสัญญาไม่เปิดเผย ความลับทางการค้า MinnowBoard จะมีข้อมูลให้ครบยกเว้นแต่ไดรเวอร์ GPU ที่เป็นไบนารีให้โดยไม่มีซอร์สโค้ด ซึ่งเหมือนกับเครื่องทางฝั่ง ARM
ข้อเสียสำคัญคือ MinnowBoard คือมันใช้ซีพียู Atom E640 ที่ออกมาสามปีกว่าแล้ว เป็นซีพียูคอร์เดี่ยวแถมรองรับเฉพาะชุดคำสั่ง 32 บิต ทาง CircuitCo ให้เหตุผลว่าอินเทลยังไม่กล้าทำฮาร์ดแวร์โอเพนซอร์สนักเลยเลือกที่จะให้ใช้ ชิปรุ่นเก่าก่อน และ CircuitCo เองก็ต้องการใช้ชิปที่เสถียรแล้วเพื่อทำความเข้าใจกับการออกแบบ อย่างไรก็ดีชิปรุ่นนี้ยังมีประสิทธิภาพมากกว่า BeagleBone ถึงสี่เท่า และหากออปติไมซ์ให้ดีก็อาจจะเพิ่มประสิทธิภาพไปถึงสิบเท่าตัวได้
CircuitCo หวังว่าจะได้ผลิตบอร์ดแบบเดียวกันโดยใช้ชิปรุ่นใหม่อย่าง BayTrail ภายในหนึ่งปีข้างหน้า แต่การตัดสินใจต้องมาจากอินเทล
ราคา 199 ดอลลาร์ สามารถสั่งได้ตั้งแต่วันนี้จากตัวแทนจำหน่ายเช่น Farnell, Mouser, Digi-Key

upic.me

ที่มา -Blognone  ArsTechnica

อุ้งตีนแมวก็สามารถใช้งาน Touch ID Sensor บน iPhone 5s ได้ (อีกแล้ว)

iPhone 5sนอกจากนิ้วหัวแม่เท้าแล้ว ยังคงมีคนทดสอบ Touch ID Sensor บน iPhone 5s อยู่เรื่อยๆ ล่าสุดเว็บไซต์ TechCrunch ได้ทดลองใช้อุ้งตีนแมวในการปลดล็อคเครื่องจาก Touch ID Sensor บน iPhone 5s ผลออกมาว่า ใช้ได้เช่นกัน (วิดีโอท้ายข่าว)ทีมงานทดลองใช้อุ้งตีนแมวซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่หลายครั้งกว่าจะสำเร็จ นอกจากนี้ยังทดสอบนำอวัยวะส่วนต่างๆ ของตัวเอง เช่น ส้นเท้าและข้อมือ ก็สามารถปลดล็อคได้เช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า Touch ID Sensor บน iPhone 5s สามารถใช้อวัยวะส่วนอื่นๆ นอกจากนิ้วมือปลดล็อคเครื่องได้ จนมีการระดมทุนเพื่อเป็นรางวัลให้กับผู้ที่สามารถเจาะระบบ Touch ID Sensor ได้เป็นคนแรก ตามข่าวก่อนหน้านี้ครับ

ที่มา – TechCrunch

แอปเปิลออกโฆษณา iPhone 5c ตัวใหม่ สื่อว่าทุกสีใน iOS 7 เข้ากับตัว iPhone 5c


iPhone 5Cหลังจากที่แอปเปิลปล่อยโฆษณาตัวแรกไป แล้ว ล่าสุดแอปเปิลปล่อยโฆษณา iPhone 5c ชุดที่สอง โดยชุดที่สองนี้จะเน้นเรื่องการออกแบบตัว iOS 7 ที่สีของไอคอนของแอพและสัญลักษณ์ในตัวแอพต่าง ๆ เข้ากับตัว iPhone 5c ได้เป็นอย่างดีไม่แน่ใจว่าเมื่อแอปเปิลปล่อยโฆษณาชุดนี้ไปแล้ว ผู้ใช้จะเข้าใจเหตุผลของการดีไซน์ใน iOS 7 แล้วหรือยัง

ที่มา: YouTube


BlackBerry จะปลดพนักงาน 4,500 คน เตรียมลาตลาดคอนซูเมอร์

BlackBerryBlackBerry แถลงข่าวผลประกอบการไตรมาสที่สองล่วงหน้าประมาณหนึ่งอาทิตย์ โดยขาดทุนเกือบพันล้านเหรียญในไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเตรียมปลดพนักงานประมาณ 4,500 คน และจะเปลี่ยนทิศทางของบริษัท โดยเน้นไปยังตลาดระดับองค์กรและโปรซูเมอร์ ซึ่งคือกลุ่มลูกค้าที่เคยเป็นหัวใจหลักของ BlackBerry
โดยรายละเอียดคร่าวๆมีดังนี้ครับ
  • ผลประกอบการขาดทุนประมาณ 950-995 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าส่วนหนึ่งเกิดจาก BlackBerry Z10 ที่ค้างสต็อคจำนวนมาก (ในไตรมาสที่ผ่านมา โทรศัพท์ BlackBerry กว่า 3.7 ล้านเครื่องที่ขายไปส่วนใหญ่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 7)
  • จะลดจำนวนสมาร์ทโฟนออกสู่ตลาดจาก 6 รุ่น เหลือ 4 รุ่น โดยจะเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับระดับองค์กร แบ่งเป็นรุ่นระดับสูง 2 รุ่น และรุ่นเริ่มต้น 2 รุ่น
  • Thorsten Heins ซึ่งเป็น CEO ของ BlackBerry ได้ออกความเห็นต่อการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ว่า “เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยากแต่จำเป็นในการที่จะก้าวไปข้างหน้า เพื่อมากำหนดจุดยืนของบริษัทในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันเติบโตมากขึ้น เรื่อยๆ “
  • ผลประกอบการไตรมาสที่สองอย่างเป็นทางการของ BlackBerry จะออกในวันที่ 27 กันยายนนี้
โดยยังมีข่าวลือว่า BlackBerry ได้มีการจ้างบริษัท PricewaterhouseCoopers LLP มาประเมินหาผู้มีศักยภาพซื้อบริษัทฯ อีกด้วยครับ
ที่มา -Blognone  BloombergMarketwatch

Tim Cook ไม่หวั่นสงครามมือถือ บอกแอปเปิลไม่สนใจตลาด “ขยะ”

Appleนิตยสาร Businessweek จับสามผู้บริหารแอปเปิลอันได้แก่ ซีอีโอ Tim Cook, หัวหน้าฝ่ายออกแบบ Jonathan Ive และหัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ Craig Federighi มาให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์การแข่งขันในอนาคตของแอปเปิล (บทความเดียวกับข่าวนี้ แต่มีประเด็นอื่นๆ อีกเยอะ)ประเด็นสำคัญคงเป็นยุทธศาสตร์ของแอปเปิลว่าจะทำอย่างไรในสมรภูมิมือถือ ที่แข่งกันรุนแรง และราคาสินค้าก็ลดลงเรื่อยๆ ซึ่ง Cook ตอบประเด็นนี้อย่างใจเย็นว่าเขาผ่านสถานการณ์ลักษณะเดียวกันนี้มามาก สินค้าทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นพีซี แท็บเล็ต เครื่องเล่นวิดีโอ-ดีวีดี ต่างก็มีลักษณะเดียวกันนี้คือเจอสินค้าราคาถูกมาตีตลาด
Cook บอกว่าในตลาดใดๆ จะมีส่วนที่เป็น “ขยะ” ก้อนใหญ่อยู่เสมอ (There’s always a large junk part of the market) และแอปเปิลไม่เคยสนใจธุรกิจส่วนนี้
สิ่งที่แอปเปิลสนใจคือตลาดระดับบน คนที่ต้องการสินค้าที่ทำงานช่วยพวกเขาได้มาก และแอปเปิลจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อชิงตลาดนี้มาให้ได้ ในขณะที่เขาไม่เคยกังวลถึงตลาดระดับอื่นๆ เลย เพราะไม่ใช่แนวทางของแอปเปิลนั่นเอง
Cook ยังให้ความเห็นว่าทั้งตลาดบนและตลาดล่างมีขนาดใหญ่มากทั้งคู่ ทำให้แอปเปิลสามารถสร้างฐานลูกค้าขนาดใหญ่จากกลุ่มคนที่สนใจและให้ความสำคัญ กับประสบการณ์การใช้งานเป็นหลัก เขายืนยันว่าแอปเปิลไม่เคยมีเป้าหมายในการขายมือถือราคาถูก แต่เป้าหมายของบริษัทคือขายมือถือที่ยอดเยี่ยม ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และพยายามหาวิธีผลิตมันในราคาต่ำลง
เขาบอกว่าโลกเราตอนนี้มีระบบปฏิบัติการสองขั้วชัดเจน แต่ความพึงพอใจของลูกค้าต่อ iOS ยังเหนือกว่า และเขาก็ยกสถิติว่า iOS มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มคนท่องเว็บเหนือกว่า และรายได้จาก App Store ก็สูงกว่า ส่วน Android มีปัญหาเรื่องการอัพเดตเวอร์ชัน (Cook บอกว่าเหมือนตอนนี้เขายังใช้ iOS 3 อยู่ ซึ่งเขาจินตนาการไม่ออกแล้วว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร)
Cook ปฏิเสธว่าสถานการณ์ระหว่าง Android vs iPhone นั้นต่างจาก Windows vs Mac ในอดีต เพราะอย่างน้อยไมโครซอฟท์ก็ทำให้ Windows เหมือนกันเสมอ ไม่มีปัญหาเรื่อง fork และระดับของ fragmentation ก็ไม่เยอะเท่า Android ในปัจจุบันด้วย
ในบทสัมภาษณ์ยังพูดถึงการทำงานร่วมกันของ Ive กับ Federighi รวมถึงภาพหล่อๆ ของผู้บริหารสูงสุดของแอปเปิลทั้งสามคน
Ive และ Federighi ทำงานร่วมกันมานานแล้ว และโต๊ะทำงานของทั้งสองก็อยู่ใกล้ๆ กัน ช่วยให้การประสานงานเกิดขึ้นได้ง่าย แถมทั้งสองคนก็พูดจาภาษาเดียวกันคือเน้น usability และ simplicity เป็นสำคัญ
Ive ให้สัมภาษณ์ว่าออกแบบเครื่องสแกนนิ้วของ iPhone 5s โดยมองที่ไอเดียใหญ่ (big idea) แล้วค่อยๆ แก้ปัญหาหลายอย่างที่ทำให้ไอเดียนั้นไม่สามารถเกิดได้จริง เขาเทียบวิธีการทำงาน (กับคู่แข่งที่ไม่เอ่ยนาม) ว่าแอปเปิลไม่ได้เริ่มจากการคิดเทคโนโลยี 10 อย่างที่ควรจะเพิ่มเข้ามาเป็นจุดขายของผลิตภัณฑ์ให้ดูยาวๆ หรอกนะ ส่วน Federighi ก็เสริมว่า การคิดของใหม่น่ะไม่ยาก อันที่ยากคือของที่เหมาะสม (New is easy. Right is hard.)
ผู้สัมภาษณ์บทความนี้แสดงความเห็นว่าการทำงานร่วมกันอย่างกลมเกลียวของ ทั้งสองจำเป็นต่อแอปเปิลมากๆ ในยามที่ตลาดแข่งขันรุนแรง และถ้าปล่อยให้มีการเมืองในบริษัท (หมายถึง Scott Forstall) ก็คงจะทำให้แอปเปิลมีปัญหามากยิ่งขึ้น

ที่มา -Blognone Businessweek

เปรียบเทียบภาพถ่าย G2 13 ล้านพิกเซลปะทะ Lumia 1020 38 ล้านพิกเซล

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2556 แอลจี อิเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานดินเนอร์เล็กๆ เพื่อแนะนำ LG G2 อย่างเป็นทางการ ทีนี้ในสไลด์ที่ LG ได้เปิดให้ผมดู เขาอธิบายเรื่องกล้องไว้ยาวพอสมควร งานนี้ก็เลยปิ๊งไอเดียสานต่อศึกประชันกล้องระหว่างตัวเทพฝั่งแอนดรอยด์ กับตัวเทพฝั่ง Windows Phone ซะเลยครับก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า LG G2 เคยโฆษณาเรื่องกล้องไว้เยอะพอสมควร สเปคกล้องคร่าวๆ ก็คือมีความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล แต่มีระบบ Realtime OIS ที่ช่วยลดอาการสั่นไหวของภาพ ผลก็คือภาพจาก G2  จะมีความชัดที่เพิ่มขึ้นจาก Optimus G และ Optimus G Pro อยู่มาก แต่สำหรับตัวเทพฝั่ง Windows Phone ผมคงไม่พูดมากเพราะหลายๆ คนในที่นี้ คงทราบความสุดยอดของมันมาแล้วนะครับ


Nokiaแต่ละภาพผมถ่ายจากจุดยืนเดียวกัน มุมกล้องเหมือนกัน ถ้าจะต่าง ก็มีเพียงอย่างเดียวคือความกว้างของเลนส์กับสภาพแสงในขณะนั้น เพราะอย่างที่รู้กัน วันนี้ (20 กันยายน) ฝนตกทั่วกรุงเทพฯ ทั้งวันครับ T__T สภาพแสงเลยไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ครับ ก็เลยขอชดเชยด้วยภาพในอาคารก็แล้วกัน
แต่ละรูป กดเข้าไปดูภาพเต็มความละเอียดได้ใน flickr นะครับ




G2
CAM00004
Lumia 1020
WP_20130920_10_25_27_Pro__highres
G2
CAM00005
Lumia 1020
WP_20130920_10_26_51_Pro__highres
G2
CAM00008
Lumia 1020
WP_20130920_13_49_47_Pro__highres
G2
CAM00009
Lumia 1020
WP_20130920_14_03_42_Pro__highres
G2
CAM00010
Lumia 1020
WP_20130920_14_07_59_Pro__highres
G2 (พื้นหลังรูปนี้ จริงๆ เป็นสีดำ แต่ไฟ LED สาดลงมาเลยกลายเป็นสีน้ำเงิน)
CAM00011
Lumia 1020
WP_20130920_14_09_22_Pro__highres
G2
CAM00013
Lumia 1020
WP_20130920_14_15_22_Pro__highres
ที่มา Blognone

ไมโครซอฟท์ กูเกิลต้องถูกกดดันในเรื่องการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม



       ในงานประชุมกับนักวิเคราะห์ทางการเงินที่ไมโครซอฟท์จัดขึ้น นอกจากประเด็นอนาคตของ Windows RT แล้ว ยังมีการกล่าวถึงการแข่งขันกับกูเกิลด้วยSteve Ballmer ซีอีโอของบริษัทกล่าวถึงการทำเงินจากบริการให้ผู้ใช้ตามบ้านว่า กูเกิลทำได้อย่างน่าเหลือเชื่อและอัศจรรย์ และไมโครซอฟท์ก็เป็นหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ที่จะสามารถต่อกรกับกูเกิลได้ เขายังกล่าวว่าไมโครซอฟท์มีอัลกอริทึมที่มีคุณภาพดีเท่ากับกูเกิล แต่การขายโฆษณาผ่านการค้นหา (search advertising) อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ทำให้ไมโครซอฟท์ได้รายได้ต่อการค้นหาน้อยกว่ากูเกิล ดังนั้นบริษัทจึงต้องเพิ่มยอด (volume) เพื่อที่จะหารายได้ได้มากขึ้น
Microsoft      Ballmer ยังมองว่าแนวทางปฏิบัติที่กูเกิลดำเนินอยู่เป็นที่ถูกจับตามองโดยองค์กรที่ ดูแลการแข่งขันในตลาด และไมโครซอฟท์เองก็ได้พูดคุยกับเหล่านั้นในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน โดยประเด็นที่ไมโครซอฟท์เน้นในเรื่องการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมคือความพยายาม ผูกมัดบริการ YouTube และ Google Maps ซึ่งถึงแม้ Ballmer จะไม่พูดในรายละเอียด แต่เขาก็กล่าวว่ากูเกิลต้องได้รับแรงกดดันจากองค์กรที่ดูแลการแข่งขันในตลาด และท้องตลาด (marketplace)
      Ballmer ไม่ยอมพูดถึงกลยุทธ์แข่งขันของ Bing ต่อ Google แต่เขายกตัวอย่างที่ Bing อยู่เบื้องหลัง Siri บน iOS 7 และกล่าวว่ากูเกิลตั้งรับได้ดี แต่ไมโครซอฟท์ก็มีกลยุทธ์ที่รุกตลาดดีเช่นกัน และเขาคิดว่าบริษัทจะสามารถให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นและเปลี่ยนแปลงพลวัตใน การแข่งขัน (competitive dynamic) ระหว่างบริษัทกับกูเกิลได้ในเวลาเดียวกัน
ที่มา: Blognone The Verge

จัดให้!! ชำแหละ iPhone 5s ข้างในมีอะไร?

ถึงเวลาของสมาทร์โฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Apple อย่าง iPhone 5s ที่เปิดจำหน่ายให้ซื้อหาเป็นเจ้าของกันมื่อวานและวันนี้ก็มีบางส่วนเดินทาง มาถึงเมืองไทยบ้างแล้ว (เครื่องหิ้ว) นั้นจะโดนเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง iFixit นำมาแยกชิ้นส่วนออกเป็นชิ้นๆ ให้เราได้ชมกัน เพราะiFixit เค้าเป็นผู้นำเรื่องนี้อยู่แล้ว
  แม้จะมีบางเว็บไซต์ ทำรายการลอกเลียนแบบ แต่เชื่อผมเถอะไม่มีเว็บไซต์ชำแหละผลิตภัณฑ์ได้มันเท่า iFixit อีกแล้ว วันนี้ทาง S! Hitech เลยได้นำรูปภาพและคลิปที่ทาง iFixit ได้งัดแงะ แกะ ดู กันให้เต็มๆ ตาไปเลยว่าข้างในของไอ้เจ้าเมือถือที่ทุกคนจับตารอคอยกันตั้งนาน นั้นเป็นยังไง มาส่องกันดีกว่า ส่วนประกอบ iPhone 5s มีอะไรอยู่บ้าง….. เริ่ม!!