วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

Nikon 1 AW1 กล้อง mirrorless กันน้ำได้รุ่นแรกของโลก

วงการกล้อง mirrorless ยังมีของใหม่ออกมาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุด Nikon เปิดตัวกล้องซีรีส์ Nikon 1 ตัวใหม่ AW1 พร้อมเคลมว่าเป็น mirrorless ตัวแรกที่มาพร้อมกับความสามารถในการกันน้ำได้ทางด้านสเปค AW1 จะใกล้เคียงกับ J3 ใช้เซนเซอร์ขนาด CX format (1″) ความละเอียด 14 เมกะพิกเซล ถ่ายรัวได้สูงสุด 15 ภาพต่อวินาที (ถ้าโหมดล็อกโฟกัสจะได้ 60 ภาพ) เร่ง ISO ได้ตั้งแต่ 160-6400 หน้าจอด้านหลัง 3″ สัมผัสไม่ได้ พลิกเอนไม่ได้
ส่วนความทนถึก AW1 กันน้ำได้ลึกสุด 15 เมตร และกันกระแทกได้ที่ความสูงระดับ 2 เมตร และจะเริ่มขายวันที่ 10 ตุลาคมนี้ด้วยราคาเปิดที่ 799 เหรียญ (ประมาณ 25,000 บาท) มาพร้อมกับเลนส์ AW 11-27.5mm และราคา 999 เหรียญ (ประมาณ 31,000 บาท) สำหรับชุดเลนส์คู่ AW 11-27.5mm และ AW 10mm ครับ
Nikon AW1
พร้อมกับการเปิดตัวกล้องกันน้ำ Nikon ก็ปล่อยเลนส์ซีรีส์ AW ที่กันน้ำเช่นกันมาสองตัวรวด แต่จะไม่มีระบบกันสั่นในตัวมาให้ ตัวแรกเลนส์นอร์มอลซูม Nikon 1 Nikkor AW 11-27.5mm f/3.5-5.6 ซึ่งจะติดมากับกล้อง AW1 กันน้ำได้ลึกเท่ากับกล้องที่ 15 เมตร ส่วนอีกตัวเป็นเลนส์วายด์ Nikon 1 Nikkor AW 10mm f/2.8 กันน้ำได้ลึกกว่ากล้องเสียอีกที่ 20 เมตร เปิดราคามาที่ 299 ปอนด์ (ประมาณ 15,000 บาท) เริ่มขายพร้อมกล้องครับ
Nikon 1 Nikkor AW 11-27.5mm f/3.5-5.6
Nikon 1 Nikkor AW 10mm f/2.8
ที่มา – Blognone dpreview

โนเกียไทยเคาะราคา Nokia 515 ฟีเจอร์โฟนตัวหรู 4,790 บาท

Nokiaถึงแม้โลกจะหมุนไปทางสมาร์ทโฟน แต่ตลาดฟีเจอร์โฟนก็ยังอยู่และขายได้ ถ้ายังจำกันได้ โนเกียเพิ่งเปิดตัว Nokia 515 ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์โฟนตัวท็อปสุดของบริษัทในปัจจุบัน มาพร้อมกับ Gorilla Glass 2, กล้อง 5MP, แฟลช LED, เสียงสนทนา HD, รองรับ HSDPA แถมมีฟีเจอร์ที่สมาร์ทโฟนไม่มีอย่างการสแตนด์บาย 38 วัน, สามารถดึง contact จาก WP/Android มาใช้เป็นมือถือเครื่องสำรองได้ง่าย, ใช้ไมโครซิมทำให้สลับซิมกับสมาร์ทโฟนได้ง่าย (ขาดไปอย่างเดียวคือจอไม่สัมผัส)
โนเกียประเทศไทยนำ Nokia 515 มาขายแล้ว ตั้งราคาไว้ที่ 4,790 บาท มีสีดำและขาวให้เลือก


ที่มา – Blognone อีเมลประชาสัมพันธ์โนเกียประเทศไท

HP เปิดตัว ENVY 17 โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม Leap Motion ในตัว

HPHP มาเหนือเมฆ เปิดตัว ENVY 17 Leap Motion Special Edition โน้ตบุ๊กที่ฝังเซ็นเซอร์ Leap Motion มาให้ในตัว สามารถสั่งการได้โดยไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่องแม้แต่น้อย สเปกอย่างอื่นๆ ก็มาตรฐานตัวแรง หน้าจอ 17.3″ 1920×1080, ซีพียู Core i7 Haswell, แรม 8GB, ฮาร์ดดิสก์ 1TB 5400 rpm (อัพเป็น 7200 rpm ได้), การ์ดจอ NVIDIA GeForce ไม่ระบุรุ่น ส่วนของเด็ดอย่าง Leap Motion ดูกันเองในวิดีโอท้ายข่าว
ราคาเริ่มต้นที่ 1,049 ดอลลาร์ เริ่มวางขาย 16 ตุลาคมนี้

HP Envy 17 Leap

ที่มา – Blognone HP

My Yahoo! ปรัปรูปโฉมใหม่ทั้งบนมือถือ, แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป

Yahoo!Yahoo! ปรับปรุงบริการ My Yahoo! ทั้งบนมือถือ, แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป ด้วยการออกแบบ My Yahoo! ให้ดูสดใสยิ่งขึ้น พร้อมกับสามารถจัดระเบียบ และการค้นหาในส่วนที่คุณชื่นชอบได้ โดยมีการปรับปรุง My Yahoo! ให้สามารถเข้าถึงอีเมล, ปฏิทิน, บอร์ดคะแนนการแข่งกีฬา, การลงทุนหุ้น, อากาศ, ภาพจาก Flickr และเนื้อหาอื่นๆ ที่คุณต้องการที่จะแสดงได้มากยิ่งขึ้น



ที่มา – Blognone Yahoo! via The Next Web

HP เปิดตัวแท็บเล็ต Omni 10, โน้ตบุ๊กแยกจอได้ Spectre x2, Pavilion x2

HPข่าว HP ระลอกสุดท้ายประจำวันครับ นอกจาก HP Envy พร้อม Leap Motion และ แท็บเล็ต Slate สายแอนดรอยด์ ก็มาดูฝั่งผลิตภัณฑ์สายวินโดวส์กันบ้างเริ่มจากแท็บเล็ตวินโดวส์เพียงหนึ่งเดียวกันก่อน HP Omni 10 เป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 ที่ใช้ซีพียู Atom Z3000 (Bay Trail), หน้าจอ 10″ 1920×1200, แรม 2GB, ใช้งานได้นาน 9 ชั่วโมง, พรีโหลด Office 2013 ตัวเต็มมาให้พร้อมสรรพ
ราคายังไม่เปิดเผย เริ่มวางขายเดือนพฤศจิกายนนี้

Omni 10
ที่เหลือเป็นโน้ตบุ๊ก 4 ตัวรวดครับ เอาตระกูล Pavilion ก่อน
  • HP Pavilion 11 x2 โน้ตบุ๊กถอดจอเป็นแท็บเล็ตได้ (2-in-1) หน้าจอขนาด 11.6″, Atom Bay Trail, แรม 4GB, SSD 64GB, ราคา 599 ดอลลาร์ เริ่มขาย 17 พฤศจิกายนนี้
  • HP Pavilion 13 x2 โน้ตบุ๊กถอดจอเป็นแท็บเล็ตได้แบบเดียวกัน หน้าจอ 13″ Full HD, มีให้เลือกทั้งรุ่น Intel Core และ AMD A6, รองรับ WiDi ในตัว, ราคาเริ่มต้น 599 ดอลลาร์เท่ากับตัว 11 นิ้ว วางขายก็พร้อมกัน
Pavilion 13
ที่มา – Blognone HP PressHP Blog (Omni/Pavilion)
ปิดท้ายด้วยโน้ตบุ๊กรุ่นแพง Spectre แบ่งเป็นสองรุ่นย่อย
  • HP Spectre 13 x2 ตัวนี้เป็นอัลตร้าบุ๊กถอดจอได้ หน้าจอ 13.3″ 1920×1080, Beats Audio, ซีพียู Intel Core Haswell, ความจุ SSD 128GB, ออกแบบให้ระบายความร้อนโดยไม่ต้องมีพัดลม, ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ เริ่มขาย 16 ตุลาคมนี้
  • HP Spectre 13 Ultrabook อัลตร้าบุ๊กจอสัมผัสที่ถอดจอไม่ได้ จอ 13.3″ แต่ละเอียดถึง 2560×1440 (221 ppi), ซีพียู Core i7 Haswell, ใส่แรมได้สูงสุด 8GB, SSD 128GB, ทัชแพดแบบใหม่เรียก HP Control Zone ที่ออกแบบมาสำหรับ gesture ของ Windows 8.1, แบตเตอรี่ 9 ชั่วโมง, หนาเพียง 15 มิลลิเมตร, ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ เริ่มขาย 16 ตุลาคมนี้

กูเกิลประกาศแจก Quickoffice ฟรี ทั้งบน Android/iOS เป็นการถาวร

Googleหลังจากที่กูเกิลเข้าซื้อ Quickoffice ไปเมื่อปีที่แล้ว และประกาศแจกฟรีเฉพาะลูกค้า Google Apps ภาคธุรกิจ ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ยังคงขายอยู่สำหรับลูกค้าทั่วไปวันนี้กูเกิลประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะเปิดให้ใช้ Quickoffice ฟรีเป็นการถาวร ทั้งบน Android และ iOS โดยนอกจากจะเพิ่มคุณสมบัติทำงานร่วมกับ Google Drive ให้ดีขึ้นแล้ว ยังปรับปรุงคุณสมบัติอื่นๆ เช่น การสร้างไฟล์ .zip ได้ในตัว ตลอดจนถึงหน้าตาและไอคอนภายในด้วย และกูเกิลยังได้เปลี่ยนโลโก้ของ Quickoffice ไปในคราวเดียวกัน (ภาพดูได้จากที่มา)
โอกาสเดียวกันนี้ กูเกิลประกาศว่า ผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ Google Account ผ่านตัวแอพ Quickoffice ใหม่ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 26 กันยายน กูเกิลจะแจกพื้นที่ให้เพิ่มสำหรับ Google Drive จำนวน 10 GB เป็นระยะเวลาสองปีครับ

ที่มา – Blognone Google Drive Blog

พบช่องโหว่ iOS 7 เข้าถึงภาพถ่ายในเครื่องได้จาก Lockscreen

iOS 7มีรายงานช่องโหว่ใหม่ของ iOS 7 ที่สามารถเข้าถึงภาพถ่ายภาพในเครื่องได้แม้ตั้ง lockscreen ไว้ วิธีการคือให้เข้าหน้า control center จาก lockscreen, เลือกนาฬิกาปลุก, กดปุ่ม power ค้างไว้เพื่อให้ขึ้นหน้าจอถามการปิดเครื่อง, กด cancel, กด home สองทีเพื่อเข้าหน้ารายการแอพ ก็จะสามารถเข้าถึงภาพถ่ายและกล้องถ่ายรูปได้
โฆษกของแอปเปิลระบุว่าทราบปัญหานี้แล้ว และจะรีบแก้ไขต่อไป ระหว่างนี้สามารถปิดการเข้าถึง control center จากหน้า lockscreen ไปพลางๆ ได้ก่อน
ที่น่าสนใจคือคนที่ค้นพบช่องโหว่นี้เป็นทหารชื่อ Jose Rodriguez จากหมู่เกาะคานารีของสเปน เขามีประวัติค้นพบช่องโหว่ของหน้า lockscreen มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่าในอดีตเขาเป็นพนักงานขับรถให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาล มีเวลาว่างเหลือเฟือเวลารอเจ้านาย เขาจึงทดสอบการกดปุ่มทุกแบบกับหน้า lockscreen เท่าที่นึกออก และก็ค้นเจอช่องโหว่อยู่บ้าง (เขาใช้คำว่า “ทรมาน iPhone อย่างโหดร้าย”)



ที่มา – Blognone Forbes